นโยบายความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
( Privacy Notice )
สำหรับลูกค้า หรือคู่ค้า ของบริษัท มหาชัยคราฟท์เปเปอร์ จำกัด

1.บททั่วไป
เพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล พ.ศ.2562 บริษัท มหาชัยคราฟท์เปเปอร์ จำกัด ( “บริษัท” ) จึงจัดทำประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ของบริษัทฯ (“ประกาศฯ”) ฉบับนี้ขึ้นมา เพื่ออธิบายให้ท่านทราบถึงวิธีการที่บริษัทฯ ปฏิบัติต่อข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของท่าน หรือ อาจจะระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล(“ข้อมูลส่วนบุคคล”) เช่น วิธีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือดำเนินการใดๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล อาทิ การบันทึก การจัดระบบ การจัดเก็บ การปรับเปลี่ยนหรือดัดแปลง การเรียกคืน การส่ง โอน การเผยแพร่ หรือการทำให้สามารถเข้าถึงหรือพร้อมใช้งานโดยวิธีใดๆ การจัดเรียง การนำมารวมกัน การจำกัด หรือการห้ามเข้าถึง การลบหรือการทำลาย (“ประมวลผล”) และเพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์ในการประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแนะนำให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจถึงข้อกำหนดต่างๆ ภายใต้ประกาศ โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

2.ประเภทของบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ ประเภทของบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ ลูกค้า ซึ่งหมายถึงบุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือเป็นตัวแทนของลูกค้า เช่น ผู้บริหาร, กรรมการ,พนักงานตัวแทน หรือบุคลากรใดๆ ของลูกค้า ซึ่งเป็นนิติบุคคล และให้หมายความรวมถึงผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้จัดการ ผู้สั่งซื้อ ผู้รับสินค้า และผู้จ่ายเช็ค เป็นต้น นอกเหนือจากนี้ ได้แก่

2.1 ผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลธรรมดาที่อาจเป็นคู่ค้ากับบริษัทฯ ทั้งในกรณีที่บุคคลดังกล่าว ได้แสดงเจตนาจะเข้าทำสัญญา และ/หรือจะลงทะเบียนเป็นคู่ค้าของบริษัท และในกรณีที่บริษัทฯ เป็นฝ่ายเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยการตัดสินใจของบริษัทฯ เอง อาทิ ตัวแทนซื้อขาย ผู้ผลิตอุปกรณ์/ชิ้นส่วน ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษา วิทยากร คู่สัญญา หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นต้น

2.2 คู่ค้า หมายถึง บุคคลธรรดาที่เข้าเสนอราคาเพื่อขายสินค้า และ/หรือให้บริการแก่บริษัทฯ หรือได้ลงทะเบียนเป็นคู่ค้ากับทางบริษัทฯ หรือมีความสัมพันธ์อื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันกับบริษัทฯ อาทิตัวแทนซื้อขาย ผู้ผลิตอุปกรณ์/ชิ้นส่วน ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษา วิทยากร คู่สัญญา หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นต้น

2.3 ผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้า หรือคู่ค้า ซึ่งหมายถึง บุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้า หรือคู่ค้า เช่น กรรมการ พนักงาน ตัวแทน หรือบุคลากรของผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้า หรือ คู่ค้าซึ่งเป็นนิติบุคคล และให้หมายความรวมถึงผู้ที่มีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวกับกระบวนการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้จัดการ ผู้สั่งซื้อ และผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น

3.วิธีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคล

3.1 บริษัทฯ เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้

(ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ โดยตรง
ท่านอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯ โดยตรง ดังนี้
-เมื่อท่านติดต่อสื่อสาร สอบถามข้อมูล ให้ความเห็น หรือคำติชมแก่บริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารในรูปแบบลายลักษณ์อักษรหรือวาจา ผ่านทางเว็บไซค์ แอปพลิเคชัน โทรศัพท์ อีเมล ไปรษณีย์ การพบปะโดยตรง หรือโดยวิธีการอื่นใด
-เมื่อท่านแสดงเจตนาเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการจากบริษัทฯ เข้าทำสัญญากับบริษัทฯ หรือส่งมอบเอกสารต่างๆ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏอยู่ให้แก่บริษัท

(ข) ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับมาจากบุคคลภายนอก
บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลของท่านมาจากบุคคลภายนอก เช่น จากแหล่งข้อมูลสาธารณะ แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวกับธุรกิจของท่าน หรือตัวแทน/บุคลากรของท่าน หรือแหล่งข้อมูลทางการค้า ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลด้วยตนเอง หรือได้ให้ความยินยอมแก่ผู้ใดในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังกล่าว

3.2 ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านจะได้รับการแจ้งถึงรายละเอียดต่างๆ ตามที่ระบุในประกาศฯ ฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือหากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใด ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน 3.3 ในกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล มีผลใช้บังคับ บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่บริษัทฯ ได้แจ้งไว้แก่ท่าน ซึ่งท่านมีสิทธิยกเลิกความยินยอม โดยติดต่อมายังบริษัท ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในประกาศฯ ฉบับนี้ ทั้งนี้บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำขอยกเลิกความยินยอมของท่าน และดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

4.ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมและประมวลผลภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ โดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับมาจากบุคคลภายนอก ได้แก่

4.1 ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ เพศ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน รูปถ่าย ลายมือชื่อ เป็นต้น

4.2 ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่อาศัย หมายเลขโทรศัพท์ โทรสาร อีเมล ไอดีผู้ใช้สำหรับแอปพลิเคชั่น (Line ID ) ข้อมูลผู้ที่สามารถติดต่อได้ สถานที่จัดส่งสินค้า สถานที่จัดส่งใบแจ้งหนี้ เป็นต้น

4.3 ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของลูกค้า เช่น รายละเอียดเกี่ยวกับโรงงาน/บริษัทฯ ของลูกค้า ( อาทิ ชื่อ เลขทะเบียน สถานที่ตั้ง และข้อมูลการติดต่อ ) เลขที่ทะเบียนรถยนต์ และประเภทรถยนต์ เป็นต้น

4.4 ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมการซื้อขาย ของ คู่ค้า เช่น รหัสคู่ค้า, รายละเอียดของสินค้าที่ต้องการ, เลขที่ใบรับสินค้าชั่วคราว, เอกสาร PR/PO, รายละเอียดการส่งสินค้าและวัตถุดิบ, เลขที่บัญชีธนาคาร และจำนวนเงิน เป็นต้น

4.5 ข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงิน เช่น จำนวนเงิน, เงื่อนไขการชำระเงิน, เลขที่บัญชี,ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในใบแจ้งหนี้, ใบกำกับภาษี ,ใบเสร็จรับเงิน,ใบสำคัญรับเงิน และใบหักภาษีเงินฝาก เป็นต้น

4.6 ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการลงทะเบียนเป็นลูกค้า กับบริษัทหรือในการทำธุรกรรมต่างๆ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาบัตรประชาชน, สำเนาหนังสือเดินทาง, สำเนาทะเบียนบ้าน,สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล,สำเนาใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน,สำเนาหนังสือรับรองบริษัท, สำเนา ภพ 09/20, แผนที่, เอกสารหลักประกัน ( เช่นหนังสือค้ำประกันโดยธนาคาร ( Bank Guarantee ) และหนังสือค้ำประกันโดยบุคคล) สัญญาซื้อขาย หรือสัญญาอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม และใบส่งสินค้า, สำเนาใบอนุญาตขับขี่,สำเนาใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์,เลขทะเบียนรถยนต์,ชนิดของรถยนต์,สำเนาหนังสือมอบอำนาจ,ใบแจ้งหนี้,ใบเสร็จ,ใบกำกับภาษี,ใบเสร็จรับเงิน,เช็คและต้นขั้วเช็ค,ใบสำคัญจ่าย เป็นต้น

4.7 ข้อมูลอื่นๆ เช่น บันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิน (CCTV) เป็นต้น

5.วัตถุประสงค์ และฐานทางกฏหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (เก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย )

5.1 บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ภายใต้ฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้ ( รวมกันเรียกว่า “วัตถุประสงค์ที่กำหนด” )


ลำดับ

วัตถุประสงค์ที่กำหนด

ฐานทางกฎหมายในการประมวลผล

(1)

เพื่อวัตถุประสงค์ในการลงทะเบียน เพื่อเปิดบัญชีลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

ฐานสัญญา : การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน สำหรับการลงทะเบียนลูกค้ารายใหม่ หรือการเปิดบัญชีลูกค้า
ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย : ในกรณีที่ลูกค้า หรือบุคคลอื่นใด ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นนิติบุคคล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น การจัดการบัญชี และการตรวจสอบยืนยันตัวตนของลูกค้า เป็นต้น

(2)

เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการเข้าทำสัญญา และการวางหลักประกัน

ฐานสัญญา : การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อการเข้าทำสัญญา และกระบวนการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเข้าทำสัญญา เช่น การตรวจสอบหลักฐานประกอบการทำสัญญา การวางหลักประกัน เป็นต้น
ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย : ในกรณีที่ลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นนิติบุคคล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เช่น การบริหารจัดการสัญญา การยืนยันตัวตนลูกค้า และการพิจารณาคุณสมบัติของลูกค้า เป็นต้น

(3)

เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการคำสั่งซื้อจากลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

ฐานสัญญา : การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาซื้อขาย /PR/PO และการให้บริการ ซึ่งลูกค้าหรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นคู่สัญญา
ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย : ในกรณีที่ลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นนิติบุคคล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เช่น การบริหารจัดการคำสั่งซื้อจากลูกค้า และการตรวจสอบยืนยันตัวตนของลูกค้า เป็นต้น

(4)

เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดเตรียมสินค้าและ/หรือบริการ และดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง

ฐานสัญญา : การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นคู่สัญญา เช่น การจัดส่งสินค้า การวางบิล การยืนยันยอดหนี้ค้างชำระ และการจัดส่งใบเสร็จรับเงินให้แก่ลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นต้น
ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย : ในกรณีลูกค้า หรือบุคคลอื่นใด ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นนิติบุคคล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เช่นการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า เป็นต้น

(5)

เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการแก้ไข เปลี่ยนแปลง รายละเอียดเกี่ยวกับลูกค้าในระบบของบริษัทฯ

ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย : การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ในการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเกี่ยวกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ในระบบของบริษัทฯ ให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

(6)

เพื่อวัตถุประสงค์ในการรับเรื่องร้องเรียนจากลูกค้า ผู้เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย : การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ในการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ในการร้องเรียน หรือยื่นข้อเสนอแนะจากลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เพื่อการพัฒนาคุณภาพการให้บริการของบริษัทฯ

(7)

เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯ และคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

ฐานปฏิบัติตามกฎหมาย : เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายซึ่งบังคับใช้กับบริษัทฯ อาทิ กฎหมายว่าด้วยภาษีอากร กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น

(8)

เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ

ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย : การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็น เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิการเรียกร้องของบริษัทฯ ในขั้นตอนต่างๆ ตามกฎหมาย เช่น การสอบสวนและ/หรือ การไต่สวนโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ การเตรียมคดี การดำเนินคดี และ/หรือ การต่อสู้คดีในชั้นศาล เป็นต้น

(9)

เพื่อวัตถุประสงค์ในการลงทะเบียนผู้ที่คาดว่าจะเป็นคู่ค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

ฐานสัญญา : การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของผู้ที่คาดหวังว่าจะเป็นคู่ค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เพื่อดำเนินการลงทะเบียนเป็นคู่ค้ากัน หรือดำเนินการอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

(10)

เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดซื้อจัดจ้าง และการคัดเลือกคู่ค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

ฐานสัญญา : การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอเข้าเสนอราคาของคู่ค้าที่เสนอราคา หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ก่อนเข้าทำสัญญาซื้อขาย สัญญาให้บริการ หรือสัญญาอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อ จัดจ้างของบริษัทฯ
ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย : การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจ และดำเนินการตามนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัทฯ เช่น การตรวจสอบข้อมูลและคุณสมบัติของคู่ค้า เป็นต้น

(11)

เพื่อวัตถุประสงค์ในการลงทะเบียนคู่ค้ารายใหม่ หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ตลอดจนการดำเนินการตามคำขอต่างๆ ของคู่ค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

ฐานสัญญา : การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อใช้ในการลงทะเบียนคู่ค้ารายใหม่ หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ตลอดจนการดำเนินการตามคำขอต่างๆ ของคู่ค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ในระบบ ของบริษัทฯ เช่น การเปลี่ยนแปลง แก้ไขข้อมูลของคู่ค้า เป็นต้น

(12)

เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดทำและการบริหารจัดการสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับคู่สัญญาใดๆ

ฐานสัญญา : การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคู่สัญญา เป็นการจำเป็นเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของคู่สัญญาดังกล่าว ที่ได้แสดงเจตนาเข้าทำสัญญากับบริษัทฯ
ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย : การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคู่สัญญา หรือของบุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือตัวแทนของคู่สัญญา ในกรณีที่คู่สัญญาเป็นนิติบุคคล เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการจัดทำและการบริหารจัดการสัญญาของบริษัทฯ เช่น การตรวจสอบยืนยันตัวตนและคุณสมบัติของคู่สัญญา เป็นต้น

(13)

เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา ซึ่งเข้าทำสัญญากับคู่ค้าหรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

ฐานสัญญา : การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เป็นการจำเป็น เพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา ซึ่งเข้าทำกับคู่ค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เช่น การสั่งซื้อสินค้าหรือบริการ การตั้งหนี้ และชำระราคาสินค้าหรือบริการ และการรับสินค้าหรือบริการ เป็นต้น

(14)

เพื่อวัตถุประสงค์ในการติดต่อสื่อสารกับคู่ค้าหรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน

ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย : การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการติดต่อสื่อสารทางธุรกิจกับคู่ค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เช่น การติดต่อประสานงานกับคู่ค้า หรือตัวแทนของคู่ค้า เพื่อการรับสินค้าหรือบริการ เป็นต้น

(15)

เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อย และรักษาความปลอดภัยของบุคคล และทรัพย์สินของบริษัทฯ

ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย : การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยในทรัพย์สินของบริษัท เช่น การใช้ภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อป้องกันการสูญหาย หรือเสียหายในทรัพย์สินของบริษัท หรือใช้เพื่อติดตามเอาคืนทรัพย์สิน หรือเรียกให้ชดใช้ค่าเสียหาย ในกรณีที่มีการทำให้ทรัพย์สินของบริษัทฯ สูญหาย หรือ เสียหายเป็นต้น
ฐานป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล : การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็น เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบ ดูแล ป้องกัน หรือระงับเหตุการณ์ใดๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

 

5.2 เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ ดำเนินการประมวลผล เพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดตามข้อ 5.1 ข้างต้น ในส่วนที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือสัญญา หรือมีความจำเป็นเพื่อเข้าทำสัญญากับท่าน เป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัทฯ อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย หรืออาจทำให้บริษัท ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สัญญาที่ได้เข้าทำกับท่าน หรือไม่สามารถเข้าทำสัญญากับท่านได้ (แล้วแต่กรณี) ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือยกเลิกการซื้อขายสินค้าหรือการให้/การรับบริการที่เกี่ยวข้องกับท่าน ไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน

5.3 ในกรณีที่บริษัทฯ จะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในลักษณะและ/หรือ เพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้น บริษัทฯ จะจัดให้มีนโยบายหรือประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองครองมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม และ/หรือ มีหนังสือแจ้งไปยังท่าน เพื่ออธิบายการประมวลผลข้อมูล ในลักษณะดังกล่าว โดยท่านควรอ่านนโยบายหรือประกาศเพิ่มเติม ที่เกี่ยวข้องร่วมกับประกาศฉบับนี้ และ/หรือ หนังสือดังกล่าว ( แล้วแต่กรณี )

6.การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

6.1 บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ให้แก่บุคคลและหน่วยงานดังต่อไปนี้

(ก) บุคคลหรือหน่วยงานต่างๆ ภายในบริษัทฯ ให้หมายความรวมถึงผู้บริหาร ผู้จัดการโรงงาน รองผู้จัดการโรงงาน ผู้จัดการฝ่าย รองผู้จัดการฝ่าย หัวหน้าแผนก ผู้ช่วยหัวหน้าแผนก วิศวกร หัวหน้างาน พนักงาน หรือลูกจ้าง และ/หรือ บุคลากรภายในของบริษัทดังกล่าว เท่าที่เกี่ยวข้อง และตามความจำเป็น เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

(ข) คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ มอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการ/ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัท ในการให้บริการต่างๆ การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บริการชำระเงิน บริการรับส่งไปรษณีย์ หรือธุรกิจรับส่งสินค้า บริการประกันภัย บริการวิเคราะห์ข้อมูล บริการทำวิจัย การทำการตลาด หรือบริการอื่นใดที่อาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ อาทิ ธนาคารพาณิชย์ เป็นต้น

(ค) ที่ปรึกษาของบริษัทฯ อาทิ ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ ผู้ตรวสอบบัญชี หรือผู้เชี่ยวชาญอื่นใด ทั้งภายในและภายนอกบริษัทฯ เป็นต้น

(ง) หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสรรพากร กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น

(จ) บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ท่านให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้นๆ อาทิ เปิดเผยการประมวลภาพกิจกรรมตามช่องทางสื่อต่างๆ ของบริษัทฯ ให้แก่ประชาชนทั่วไป เป็นต้น

6.2 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น จะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมจากท่านก่อน

6.3 ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น บริษัทฯ จะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ บริษัทฯ จะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าปลายทาง องค์กรระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศนั้น มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ หรือเพื่อทำให้แน่ใจว่าการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยในบางกรณี บริษัทฯ อาจขอความยินยอมของท่านสำหรับการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ ดังกล่าว

7.ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็น เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (ถ้ามี) โดยคำนึงถึงอายุความตามกฎหมายสำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้นจาก หรือเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมไว้ในแต่ละรายการ และโดยคำนึงถึงแนวปฏิบัติของบริษัทฯ และของภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง สำหรับข้อมูลส่วนบุคคล แต่ละประเภทเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่นิติสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทฯ สิ้นสุดลงอย่างไรก็ดี บริษัทฯ อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเกินกว่าระยะเวลาดังกล่าว หากกฎหมายอนุญาต หรือการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จำเป็นต่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของบริษัทฯ

หลังครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯ จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จากการจัดเก็บหรือระบบของบริษัท และของบุคคลอื่นซึ่งให้บริการแก่บริษัทฯ(ถ้ามี) หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ เว้นแต่จะเป็นกรณีที่บริษัทฯ สามารถเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ต่อไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด ทั้งนื้ รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ท้ายประกาศฯ ฉบับนี้

8.สิทธิต่างๆ ของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ หากท่านประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุในท้ายของประกาศฯ ฉบับนี้

8.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาส่วนบุคคล ดังกล่าวให้แก่ท่าน ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

8.2 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิ์ที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่าน รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยัง ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวท่านเอง เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

8.3 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

8.4 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านอาจขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

8.5 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

8.6 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

8.7 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม
ในกรณีที่บริษัทฯ อาศัยความยินยอมของท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ได้

8.8 สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน
หากท่านมีความกังวล หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของบริษัทฯ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อบริษัทฯ โดยใช้รายละเอียดการติดต่อที่ระบุในท้ายประกาศฯ ฉบับนี้ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุให้เชื่อได้ว่าบริษัทฯ ได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามระเบียบและวิธีการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิของท่าน และดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

9. ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล / เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัท มหาชัยคราฟท์เปเปอร์ จำกัด
ที่อยู่ 93/9 หมู่ 4 ถนนเศรษฐกิจ ซอยวัดบางปลา ตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร
บริษัทฯ ได้มอบหมายให้ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ของบริษัท เป็นผู้รับผิดชอบและเป็นผู้ประสานงานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีข้อสงสัยใดๆ หรือต้องการใช้สิทธิตามที่กฎหมายกำหนด สามารถติดต่อบริษัทฯ ผ่านช่องทางตามที่อยู่ด้านบน หรือติดต่อโดยตรงที่
ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ บริษัท มหาชัยคราฟท์เปเปอร์ จำกัด
ที่อยู่ 93/9 หมู่ 4 ถนนเศรษฐกิจ ซอยวัดบางปลา ตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร
Email :  hrm@mahachaikraftpaper.com โทร.(034) 468-135-9